ยามาดะ นางามาสะ ซามูไรชาวญี่ปุ่น ที่เข้ามารับราชการ ดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชในสมัยอยุธยา ได้รับบรรดาศักดิ์เป็น “ออกญาเสนาภิมุข”
ยามาดะ นางามาสะ เดินทางเข้ามาในอยุธยาในสมัยพระเจ้าทรงธรรม โดยกลับมาพร้อมกับคณะทูตจำนวน 60 คน ที่พระเจ้าทรงธรรมทรงส่งไปถึงเมืองเอโดะ นางามาสะ ซึ่งในขณะนั้นเป็นเพียงข้าราชการชั้นผู้น้อย ได้รับราชการในกรมอาสาญี่ปุ่น จนเจริญก้าวหน้าในเวลาต่อมา
ในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ยามาดะ นางามาสะ ถูกเนรเทศจากอยุธยาไปเป็นเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช มีบุตรชายลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น กับภรรยาชาวไทย มีชื่อว่า โอนิน และได้ส่งบุตรชายและคณะไปเรียกส่วยภาษีจากเมืองปัตตานี แต่ก็ถูกต่อต้านจากจากชาวต่างชาติในเมืองปัตตานี เช่น ฮอลันดา โปรตุเกส และอังกฤษ ที่ไม่พอใจที่ชาวญี่ปุ่นมีอิทธิพลในแถบนั้น ยามาดะ นางามาสะ จึงยกกองทัพไปทำศึกกับปัตตานี แต่ได้รับบาดเจ็บถูกฟันที่ขา จึงยกทัพกลับนครศรีธรรมราช
ยามาดะ นางามาสะ ถึงแก่กรรมที่เมืองนครศรีธรรมราช เมื่อ พ.ศ. 2176 หลังจากได้รับพิษจากยารักษาแผล ที่พระเจ้าปราสาททองทรงบัญชาให้ออกพระมะริด เจ้าเมืองไชยา นำยาพิษงูผสมยางไม้มาให้รักษาโดยหลอกว่าเป็นยาหลวงจากราชสำนัก
และด้วยชื่อเสียงอันโด่งดัง เรื่องราวชีวิตของยามาดะ จึงได้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ไทยในชื่อว่า ซามูไร อโยธยา ซึ่งได้ออกฉายในประเทศไทยไปเมื่อช่วงปลายปี พ.ศ.2553 โดยมีความต้องการที่จะถ่ายทอดวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไทยในสมัยก่อน ทั้งการนำเสนอศิลปะมวยไทย, ฟันดาบ, การใช้สมุนไพร ตลอดจนวัฒนธรรมไทยรวมถึงชาวญี่ปุ่นที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในสมัยอยุธยาอีกด้วย
ที่มา: หนังสือ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ไทย-ญี่ปุ่น 2550
ความหมาย : นายกรัฐมนตรี